วันจันทร์ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2555

Review: Mirror Mirror


Mirror Mirror (B)

          เกริ่นนำ เชื่อว่าเกือบ 100% ของประชากรโลกนี้คงรู้จักเรื่องราวของ สโนไวท์ กับแม่มดใจร้าย รวมถึงกระจกวิเศษกันเป็นอย่างดี (อาจจะแตกต่างกันไปตามแต่ว่าเป็นเวอร์ชั่นของใคร) ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบของหนังสือนิทาน นิยาย หรือแม้กระทั่งเอนิเมชั่น และภาพยนตร์ ผมเชื่อว่าหลายๆคนคงคุ้นชินกับภาพของสโนไวท์แสนสวยที่ถูกแม่มดใจร้ายกลั่นแกล้งเพื่อความงามเลิศในปฐพี และได้รับการช่วยเหลือจากคนแคระ แต่แม่มดก็ตามจองล้างจองผลาญเอาแอ็ปเปิ้ลเคลือบยาพิษมาให้อีกรอบ แล้วก็............ สุดท้ายแล้วสโนไวท์กับเจ้าชายก็อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข จบ

          แต่ใน Mirror Mirror นี้ เราจะได้พบกับสโนไวท์ที่ก๋ากั่น เปรี้ยวซ่า ไม่ยอมคน ตามแบบนางเอกละครไทยยุคใหม่ ที่ถึงแม้จะโดนกลั่นแกล้งจากแม่มดร้ายในคราบราชินี แต่ก็กลับมาต่อสู้ได้อย่างกล้าหาญ แต่แล้วจะเป็นอย่างไรต่อล่ะ ฉากเด็ดแอ๊ปเปิ้ลอาบยาพิษจะเป็นแบบไหน ฉากจุมพิตเพื่อคลายมนต์สะกดจะถูกนำเสนอในแบบไหน แล้วคนแคระทั้ง 7 กับเจ้าชายล่ะ จะมีบทบาทอย่างไร ติดตามกันได้ใน Mirror Mirror

*Spoiler Alert บทความต่อไปนี้มีการเปิดเผยส่วนสำคัญของหนัง

          ภาพรวม จริงๆแล้วต้องบอกว่าตัวหนังให้ความบันเทิงได้ดีมาก คือไม่รู้ว่าผมเส้นตื้นเกินไปหรือเปล่า แต่แค่เสียงพากษ์ของราชินีตอนต้นเรื่องที่ป้าจูใช้เสียงจิกกัด ค่อนขอดสโนไวท์นั่นมันตลกมากๆๆๆๆๆๆ ถึงแม้ว่าการเดินเรื่องจะดูน่าเบื่อในช่วงแรก... เอาเป็นว่าเกือบหลับ แต่พอเครื่องติด ครึ่งหลังนี่มัน... ทำมาให้คนหัวเราะจริงๆ ในส่วนของ CG ที่โผล่ออกมาแทบจะทุกฉาก ก็ดูสบายตาดี แต่ก็ทำได้โอเคไม่มีความแปลกใหม่อะไร ถึงแม้ส่วนตัวจะชอบฉากที่ราชินีเข้าไปในกระจกก็ตาม :) อีกเรื่องหนึ่งคือเรื่องของเพลงและดนตรีประกอบ ที่โดยส่วนตัวแล้วหวังว่าจะได้ยินเพลงมากกว่านี้ แต่ก็ไม่ถือว่าเสียหายอะไร เพราะแค่ I Believe In Love เพลงเดียว ก็ยังคงก้องอยู่ในหูผมมาจนถึงตอนนี้ (น้องหนู Lily เต้น+ร้องได้สุโค่ยมากๆอ่ะ ชอบบบ)

          จุดเด่น คงไม่เอ่ยถึงไม่ได้กับ ราชินี Julia Roberts ที่เล่นได้รั่ว และฮามากกก คือเป็นราชินีที่แบบจริงๆมันต้องใจร้ายไม่ใช่เรอะ แต่นี่แบบเหมือนคนสติไม่ค่อยอยู่กะเนื้อกะตัว เด๋วดีเด๋วร้าย ยิ่งตอนเจอเจ้าชายนี่แบบ โอ๊ยยยย ป้าแกเขินได้น่ารักมากกกก สรุปว่าเอาใจผมไปเลยครับ ฮ่าๆ คนต่อมา สโนไวท์ Lily Collins คือตอนเริ่มเรื่องคิดว่าสโนไวท์จะเป็นแบบติ๋มๆ ไม่กล้าทำอะไร คือแบบมันโดนแม่เลี้ยงกดขี่ข่มเหงนะเว่ย ไม่ให้ออกจากห้องอ่ะ แต่นี่อะไร สโนไวท์แรงมากอ่ะ ฮ่าๆ ทั้งหนีออกจากวัง ไปเป็นโจรป่ากับคนแคระ ออกปล้น แถมฉากจบนี่แบบ โอ้ววววว สโนไวท์ชนะเลิศ เอาไป 10 10 10 แถมเสร็จแล้วยังมีร้องเต้นปิดท้ายอีก สุดยอดดด เจ้าชาย Armie Hammer คนนี้ก็ถือว่าเล่นได้อยู่ในระดับที่เกินความคาดหมาย คือแบบเล่นไมได้ห่วงหล่อเล้ยยย แล้วฉากที่โดนมนตร์ของราชินีกลายเป็นน้องหมานี่แบบ ฮ่าๆ เลียหน้าป้าจูกันเลยทีเดียว ส่วนคนแคระทั้ง 7 แอบทำให้ผมคิดถึงเหล่าโจรใน Tangled ที่ถึงจะรูปร่างอัปลักษณ์ แถมยังเป็นโจรป่าอีก แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นคนไม่ดี เพราะเรื่องแบบนี้เราดูกันที่ภายนอกไม่ได้ใช่ป่ะครับ (นอกเรื่อง ฮ่าๆ) คนแคระทั้ง 7 เปิดตัวด้วยขาไม้ต่อที่ออกมาได้น่ารักน่าชังมาก แล้วหลายๆฉากที่พวกตัวเล็กๆออกมาก็เรียกเสียงฮาได้ และทุกๆคนเล่นกันเต็มมากกก  อีกเรื่องที่เด่นมาก ก็ต้องเป็นเรื่องเครื่องแต่งกายที่ดูเหมือนทีมเครื่องแต่งกายจะได้ปลดปล่อยกันสุดๆ ทั้งฉากงานเต้นรำต้อนรับเจ้าชาย ที่ชุดน่าจะได้แรงบันดาลใจมากจากสัตว์ต่างๆ หรือเครื่องแต่งกายสีสันแสบตาในงานแต่งงานของราชินี แต่ที่เด็ดสุดๆก็คือชุดของทั้งราชินี และสโนไวท์ แต่ละชุดของราชินีนี่มันจะใหญ่โตอลังการไปไหน ส่วนของสโนไวท์ เชื่อว่าแค่ชุดสโนไวท์แบบประยุกต์ที่ใส่ในฉากปิดเรื่องก็ฆ่าสโนไวท์ทุกคนที่เคยโลดแล่นขยับแข้งขาบนจอได้หมด (และอาจจะรวมถึงสโนไวท์หน้าเดียวที่กำลังจะตามมาเร็วๆนี้) อ่อ อีกเรื่องที่ชอบมากก็คือธีมของเรื่อง เมืองที่อยู่ภายใต้การปกครองของราชินี เมืองที่มีแต่ความยากจน แทนด้วยฤดูหนาว แต่พอราชินีหายไป ยุดแห่งความรุ่งเรือง การเริ่มใหม่ ก็ถูกแทนด้วยฤดูใบไม้ผลิ มันก็โอเคนะ ชอบๆ ส่วนเรื่องของมุกตลกที่ดูจะจัดเต็มมาก ก็ถือว่าทำได้น่าพอใจ ถึงจะมีบางมุกที่มันไม่ขำ แต่โดยรวมนี่ อยากหัวเราะดังๆมากๆๆๆ ถ้าไม่เกรงใจคนข้างๆ ฮ่าๆ

          จุดด้อย อืมมม คงเป็นเรื่องของบทที่ดูเหมือนมันยังดูล้นๆ งงๆ อยู่ หลายๆฉาก หลายๆตัวละครที่ดูเหมือนจะเล่นต่อได้ แต่ไม่เล่น ก็ไม่รู้จะใส่มาทำไม เช่น ตัวไบรตันที่แอบชอบราชินี ส่วนตัวคิดว่าตัวละครนี้ยังมีอะไรๆให้เล่นได้อีก แต่นี่ดูแบบ ใส่มาเพื่อแค่เรียกเสียงฮาในบางฉาก ผ่านมาแล้วก็ผ่านเลยไป แถมตัวละครก็ดูไม่สมเหตุสมผลอีกด้วย ตอนจบนี่แบบ เอ็งกลับตัวง่ายไปป่ะ - -" แต่ก็ไม่ใช่จุดใหญ่โตอะไรอีกนั่นแหละ

          บทสรุป ตัวหนังบอกว่าเป็นหนังแนวสดใส ดูได้ทั้งครอบครัว ก็ถือว่าหนังตีโจทย์ได้แตกละเอียดมากๆ นักแสดงนำทั้งชุดเลย ไม่ว่าจะเป็นราชินีนางเอกของเรื่อง สโนไวท์ตัวร้าย (คุณอ่านไม่ผิดหรอกครับ ฉากจบมันบอกแบบนี้จริงๆ) เจ้าชาย คนแคระ และนักแสดงสมทบทุกๆคนต่างก็ปล่อยของ ปล่อยฝรมือกันเต็มที่ เหมือนมาแข่งงกันปล่อยมุก เอาเป็นว่า สั้นๆ ง่ายๆ เลยละกัน ไปดู Mirror Mirror เถอะ ปมรับรองว่าคุณจะไม่เสียดายเงินที่เสียไปเลย 


BoyRobot




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น